S.Pellegrino presents Fine Dining Lover Masterclass series with Chef Ray Adriansyah from Locavore, Bali at St Regis
สวัสดีครับ
ซานเปลเลกรีโน มอบประสบการณ์พิเศษให้กับมื้ออาหารผ่านการปรุงโดยเชฟ Ray Adriansyah จากห้องอาหาร Locavore เมืองอูบุด, บาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นเชฟที่ได้อันดับที่ 22 ของ Asia’s 50 Best Restaurants 2017 สำหรับรูปแบบการปรุงอาหารตามสไตล์ของเชฟ Ray จะเป็นการใช้วัตถุดิบตามฤดูกาลของท้องถิ่นมาปรุงในแบบสไตล์ยุโรปร่วมสมัย จึงทำให้อาหารของเชฟจะมีทั้งความเป็นพื้นเมืองและความเป็นยุโรปเข้าด้วย รสชาติจะเป็นยังไงนั้นเราลองไปชิมเมนูตัวอย่างกันครับ
งานนี้จัดขึั้นที่ห้องอาหาร VIU ชั้นที่ 12 ของโรงแรม เดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพ ท่ามกลางบรรยากาศที่สวยงามดูดีมีระดับพร้อมวิวกรุงเทพที่โดดเด่นไม่ว่าจะเป็นหมู่ตึกสูงและความเขียวขจีของสนามกอล์ฟราชกรีฑาสโมสร
ต้อนรับด้วยเครื่องดื่มที่เป็นซิกเนเจอร์ของโรงแรม Siam Mary เป็นน้ำมะเขือเทศผสมเครื่องเคราต่างๆที่ให้รสชาติที่เข้มข้นจัดจ้านรวมถึงความเผ็ดที่หนึ่งรสในรสหลักอันเป็นเสน่ห์ของชาวสยาม
เริ่มทานกันด้วยไส้กรอกที่เชฟทำเองเนื้อนุ่มนิ่มทานง่ายหอมเครื่องเทศสมุนไพรเด่นปรุงรสเข้มข้นกลมกล่อมออกเค็มนำนิดๆเป็นความอร่อยที่ให้ความรู้สึกคุ้นเคยทีเดียว
เชฟใช้ไข่แดงของไข่เป็ดที่มีความสุกมากกว่ายางมะตูมขึ้นมาหน่อยรองด้วยข้าวที่เนื้อกรึบๆไม่สุกเต็มที่พร้อมเครื่องต่างๆที่น่าสนใจไม่ว่าจะเป็นหอยทากเนื้อสุกนิ่มพอกรุบนิดๆ เนื้อปลาและซอสกบ แนะนำควรทานเครื่องทุกอย่างพร้อมกันในคำเดียวจะได้ทั้งความหอมของซอส และรสชาติที่เข้มข้นหวานมันหนึบหนับทั้งจากตัวไข่แดงข้าวและเครื่อง เมนูนี้ให้ความรู้สึกที่เป็นตะวันตกอย่างชัดเจนแต่ยังคงความเป็น Southeast Asia อยู่เช่นเดิม
คู่กับ Domaine Houchart Côtes De Provence 2015 เป็นโรเซ่ที่หอมอ่อนๆสดชื่นรสติดหวานหน่อยๆซึ่งช่วยเติมรสหวานให้กับอาหารได้อย่างลงตัว
กุ้งแม่น้ำโดดเด่นด้วยเนื้อที่มีทั้งความเนียนนุ่มและความหวานหนึบหนับทำได้ดีมากๆ เสริมรสด้วยกะปิของอินโดนีเซียที่มีกลิ่นและรสไม่จัดจ้านเหมือนของไทย กระเทียมเนื้อกรุบหอมๆ ต้นหอม และหอมแดงดอง ทานทุกอย่างในคำเดียวจะมีความหอมของเครื่องต่างๆชัดเจนจนสามารถแยกแยะได้ไม่ยากนักส่วนรสชาติจะเข้มข้นนัวๆออกเค็มนำนิดๆ ตัวกะปิให้ความเป็นอินโดนีเซียที่ชัดเจนทีเดียว
คู่กับ De Martino Gallardia Cinsault 2014 ไวน์แดงที่ใช้องุ่นพันธ์ุ Cinsault 100% ตัวไวน์เบาใสสบายๆและดื่มในอุณหภูมิที่เย็นยิ่งทำให้ดื่มง่ายสามารถไปกับอาหารอย่างเมนูกุ้งได้อย่างไม่ขัดอรรถรส
แนะนำให้ทานทุกอย่างในคำเดียวไม่ว่าจะเป็นมะม่วงเนื้อเนียนหอมเด่นรสเข้มข้นชัดเจนออกเปรี๊ยวหวานนำแต่ไม่โดดตามด้วยโฟมเนื้อขาวที่ใส่ตะไคร้หอมๆชัดเจนและใบเตยเนื้อเนียนแน่นอารมณ์คล้ายๆสังขยาของไทยแต่เบากว่าโดดเด่นด้วยกลิ่นเฉพาะของใบเตยที่ทิ้ง after taste ไว้น่าสนใจและยังให้ความเป็นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไว้อีกด้วย
รวมถึง ซานเปลเลกรีโน (San Pellegrino) น้ำแร่มีฟองจากประเทศอิตาลีเครื่องดื่มตัวโปรดของโด้อีกด้วย
หลักจากที่ได้ชิมและพูดคุยกับ Chef Ray Adriansyah เชฟอันดับที่ 22 ของเอเชียแล้วรู้สึกถึงความเป็นตัวตนของเชฟที่ใส่ลงไปในอาหารได้อย่างชัดเจนตามที่เชฟกล่าวไว้ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของวัตถุดิบที่จะเน้นวัตถุดิบท้องถิ่นเป็นหลักซึ่งในงานนี้เชฟได้พบกุ้งแม่น้ำของไทยซึ่งมีคุณภาพดีมากจึงเปลี่ยนวัตถุดิบที่ตั้งใจตั้งแต่ต้นมาเป็นกุ้งแม่น้ำของไทยเพื่อนำเสนอวัตถุดิบที่ดีที่สุดของวันนั้นแล้วเชฟก็ดึงความเป็นกุ้งแม่น้ำได้อย่างกลมกล่อมนุ่มนวลน่าประทับใจมากๆ ผสมผสานไปกับเครื่องปรุงสไตล์อินโดเซียและสากลต่างๆให้อาหารออกมามีรสชาติของความเป็นตะวันตกที่เชฟหลงใหลแต่ยังคงไว้ซึ่งกลิ่นอายของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไว้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง
สุดท้ายโด้ขอขอบคุณ San Pellegrino, Acqua Panna, Gfour, The St. Regis Bangkok, และที่ขาดไม่ได้ Chef Ray Adriansyah ที่ให้โด้ได้มีโอกาสสัมผัสกับอีกหนึ่งมื้อพิเศษที่เปิดประสบการณ์กับเชฟระดับโลกเช่นนี้อีกครั้งครับ.
ขอบคุณมากครับ
โด้
รายละเอียดงาน
ห้องอาหาร VIU ชั้น 12
S.Pellegrino presents Chef Ray Adriansyah
5-course menu + S.Pellegrino & Acqua Panna ราคา 4,000++ บาท (4,708 บาทสุทธิ)
5-course menu + S.Pellegrino & Acqua Panna + wine pairing ราคา 6,500++ บาท (7,651 บาทสุทธิ)
วันที่ 22-23 มี.ค. 60
รายละเอียดโรงแรม
โรงแรม เดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพ / The St. Regis Bangkok
159 ถนนราชดำริ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพ 10330 [เขตปทุมวัน]
159 Rajadamri Road, Bangkok 10330
โทร : 0-2207-7777
website: www.stregisbangkok.com