• หน้าแรก
  • รีวิว
    • ร้านอาหารในกรุงเทพ
    • ร้านอาหารในต่างจังหวัด
    • ร้านอาหารในต่างประเทศ
    • โรงแรมในกรุงเทพ
  • ประเภทร้าน
    • ร้านนั่ง
    • ร้านอาหาร
    • รีสอร์ท
    • โรงแรม & รีสอร์ท
  • Hong Kong
    • Hong Kong Places
    • Hong Kong Restaurants
    • Hong Kong Rooms
    • Hong Kong Tips
  • Singapore
    • Singapore Places
    • Singapore Restaurants
    • Singapore Rooms
    • Singapore Tips
  • Macau
    • Macau Places
    • Macau Restaurants
    • Macau Rooms
    • Macau Tips
  • Japan
    • Japan Places
    • Japan Restaurants
    • Japan Rooms
    • Japan Tips
รีวิวร้านอาหาร โรงแรม ท่องเที่ยว โปรโมชั่น
  • Contact Us
รีวิวร้านอาหาร โรงแรม ท่องเที่ยว โปรโมชั่น
  • หน้าแรก
  • รีวิว
    • ร้านอาหารในกรุงเทพ
    • ร้านอาหารในต่างจังหวัด
    • ร้านอาหารในต่างประเทศ
    • โรงแรมในกรุงเทพ
  • ประเภทร้าน
    • ร้านนั่ง
    • ร้านอาหาร
    • รีสอร์ท
    • โรงแรม & รีสอร์ท
  • Hong Kong
    • Hong Kong Places
    • Hong Kong Restaurants
    • Hong Kong Rooms
    • Hong Kong Tips
  • Singapore
    • Singapore Places
    • Singapore Restaurants
    • Singapore Rooms
    • Singapore Tips
  • Macau
    • Macau Places
    • Macau Restaurants
    • Macau Rooms
    • Macau Tips
  • Japan
    • Japan Places
    • Japan Restaurants
    • Japan Rooms
    • Japan Tips
  • Follow
    • Facebook
    • Twitter
    • Google+
    • Youtube
    • Instagram
9 Bloggers 9 Missions in wonderful Malaysia
Home
รีวิว
โรงแรมในต่างประเทศ

9 Bloggers 9 Missions in wonderful Malaysia

พฤศจิกายน 14th, 2015 Do is On The WAY กิจกรรม, ร้านนั่ง, ร้านอาหาร, ร้านอาหารในต่างประเทศ, รีสอร์ท, อาหารจีน, อื่นๆ, โรงแรม & รีสอร์ท, โรงแรมในต่างประเทศ



9 บล็อกเกอร์ 9 ภารกิจพิชิตมาเลเซีย

สวัสดีครับ

การท่องเที่ยวมาเลเซียประจำประเทศไทยได้ จัดภารกิจสุดพิเศษโดยคัดเลือกบล็อกเกอร์ชาวไทยจำนวน 9 ท่านให้ไปท่องเที่ยวประเทศมาเลเซียผ่าน 9 ภารกิจหลักในสามเมืองใหญ่อันได้แก่ ปีนัง, อีโปฮ์, และ กัวลาลัมเปอร์ โดยใช้แอพพลิเคชั่น Seeties แอพพลิเคชั่นที่จะช่วยในการค้นหาที่เที่ยวที่กินที่ช้อปซึ่งตอนนี้มีให้ บริการในประเทศมาเลเซีย, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์, ไต้หวัน, และรวมถึงประเทศไทยอีกด้วย เพื่อเป็นตัวช่วยให้ 9 ภารกิจพิชิตมาเลยเชียนั้นลุล่วงไปด้วยดี โดยระยะเวลาการเดินทางทั้งสิ้น 4 วันคือตั้งแต่วันที่ 10 จนถึงวันที่ 13 พ.ย. 2558 ที่ผ่านมาซึ่งโด้ก็ได้รับเกียรติให้ถูกคัดเลือกจากการท่องเที่ยวมาเลเซีย ประจำประเทศไทยให้เป็น 1 ใน 9 บล็อกเกอร์ที่จะต้องทำภารกิจในครั้งนี้ให้สำเร็จและรีวิวนี้จะเป็นบรรยากาศ ต่างๆตลอดทั้ง 4 วันของโด้ในภารกิจพิชิตมาเลเซีย ถ้าพร้อมแล้วไปกันเลยครับ

เริ่มกันที่รายชื่อ 9 บล็อกเกอร์ที่ถูกคัดเลือกโดยการท่องเที่ยวมาเลเซียประจำประเทศไทย
1. คุณลุงอ้วน [ www.fattyuncleeattravel.com]
2. คุณดาว [ www.daopentor.com]
3. คุณจิ๊บ [ www.feelthai.blogspot.com]
4. คุณบอย [ www.sadoodta.com]
5. คุณเจิน [ www.bloggertrip.com]
6. คุณต้น [ www.travelguruthailand.net]
8. คุณอ้น [ www.go-graph.com]
7. คุณนกแก้ว [ www.goohiw.com]
และ 9. โด้ [ www.reviewnowz.com]

วันแรกของการเดินทาง (10/11/15) รวมตัวกันที่สนามบินสุวรรณภูมิแถว M ซึ่งเป็นของ สายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ (Malaysia Airlines) ผู้สนับสนุนในการเดินทางในครั้งนี้ใช้เวลารวดเร็วไม่มีปัญหา

ระยะเวลาในการเดินทางประมาณสองชั่วโมงนิดๆเท่านั้นภาย ในเครื่องมีอาหารหลักให้หนึ่งมื้อรสชาติเข้มข้นถึงใจดีพร้อมเครื่องดื่มเสริฟ์ตลอด

เปลี่ยนเป็นเครื่องภายในประเทศที่สนามบินนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ แวะจิบเครื่องดื่มหอมๆสดชื่นๆที่ร้าน OldTown White Coffee เลือกดื่ม OldTown White Coffee แบบเย็นหอมเด่นสดชื่นรสเข้มข้นกลมกล่อมหวานมันชัดเจนดีแต่ไม่แรงไปอร่อยๆ

ระหว่างนั่งรอก็เจอภารกิจแรกเรียกน้ำย่อยกันก่อนเลยกับ ” Challenge 1 : Smart Explore in KLIA!” รู้ลึกรู้ลับกับมาเลเซียโดยจับคู่บล็อกเกอร์คู่ไหนรู้เรื่องมาเลเซียเยอะสุด ภายในเวลา 15 วินาทีและผู้ชนะได้แก่ คุณจิ๊บกับคุณอ้น ตอบไปได้กว่า 13 อย่างคือ กัวลาลัมเปอร์‬, ‪สลังงอร์‬, กลันตัน‬, ซาบาฮ์‬, ตึกแฝด‬‪, Lostworldoftambun‬, Sunwaylagoon‬, malaysiaairlines‬, ‎เครื่องเทศ‬, ลิงจมูกยาว, ‎tourismmalaysia‬, ‎oldtowncoffee‬, และ ชาเตตาเหระ‬ เรียกว่ามาเป็นชุดโด้นี่ฟังนิ่งเลย

ออกเดินทางต่อด้วยเที่ยวบินภายในประเทศของสายการบิน มาเลเซียแอร์ไลน์มุ่งสู่ปีนังใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงเท่านั้นให้บริการ snack และเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์

มีรสบัสคันใหญ่รอรับพร้อมไกด์ท้องถิ่นจากสนามบินสู่ใจกลางเมือง จอร์จทาวน์ (George Town) เมืองหลวงของปีนังและยังเป็นหนึ่งในสองเมืองของมาเลเซียที่ได้รับการขึ้นทะเบียนยูเนสโก้ให้เป็นเมืองแห่งมรดกโลกด้วย

มื้อกลางวันที่ร้าน Perut Rumah โดย Mr. Ooi, CEO Penang Global Tourism (PGT) เป็นเจ้าภาพ ตัวร้านเป็นอาคารเก่าสวยมากภายในยิ่งสวยให้อารมณ์บ้านพักสมัยก่อนมีลานตรง กลางรับแสงเป็นร้านขนาดเล็กแต่สูงโปร่งมีมุมถ่ายรูปเยอะดีชอบมากๆ

อาหารเป็นสไตล์ Nyonya Cuisine ที่เกิดจากการผสมผสานกันระหว่างอาหารจีน (รัฐปีนังเป็นเขตการปกครองเพียงแห่งเดียวของมาเลเซียที่มีประชากรส่วนใหญ่ เป็นชาวจีน) และอาหารท้องถิ่นพัฒนามาจนเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง อาหารแต่ละจานหน้าตาคุ้นเคยดีแต่รสชาติรับรองไม่เหมือนที่ในเมืองไทยเลยแต่ ละจานจะมีรสชาติที่แตกต่างกันรสชาติเข้มข้นชัดเจนทานง่ายสบายอยู่ถือเป็นการ ต้อนรับสู่มาเลเซียอย่างเป็นทางการได้เป็นอย่างดี

อิ่มอร่อยกับชาว Seeties ที่คอยดูแลต้อนรับเป็นอย่างดี

เดินทางต่อมาที่ร้าน China House เป็นร้านนั่งกินดื่มชิวๆที่ตกแต่งร้านได้แนวร้านนี้คนเยอะคนเต็มและเป็นจุดที่จะเริ่มภารกิจที่ 2

” Challenge 2 : Wefie in the Art” จัดทีมละ 3 คนออกเสาะหาศิลปะบนกำแพงตามจุดที่กำหนดในจอร์จทาวน์แล้วโพสลงใน Seeties เป็นภารกิจที่สนุกมากเพราะโด้ไม่รู้เลยว่าตอนนี้อยู่ตรงไหนของเมืองกว่าจะหา เจอใช้เวลาพอสมควรและวิ่งกันวุ่นวายทั่วเมืองกันเลย สำหรับภารกิจนี้ทีมโด้ซึ่งมีลุงอ้วน, คุณเจิน, และ โด้ เป็นทีมที่ทำภารกิจได้เสร็จก่อนเป็นทีมแรก

แต่บอกได้เลยว่าจอร์จทาวน์สวยมากเป็นเมืองที่โด้ต้องกลับมาอีกแน่นอน ข้อมูลสำหรับ Street Art in George Town : CLICK

เดินทางสำหรับภารกิจต่อไปที่ Gurney Drive เป็นแบบเปิดบรรยากาศบ้านๆสบายๆและมีร้านอาหารมาเปิดเป็นสิบๆร้านคึกคักด้วยผู้คนท้องถิ่น

เริ่มภารกิจกันเลย ” Challenge 3 : Food of Unity” โดยใช้ทีมเดิมให้เงินคนล่ะ 20 RM เสาะหาเมนูอร่อยๆในย่าน Gurney Drive แห่งนี้ผ่าน Seeties และถ่ายภาพอาหารที่ทานลงใน Seeties ใครถ่ายได้น่าทานที่สุดคือผู้ชนะในภารกิจนี้ ทีมโด้เลือกแนวอาหารสดปรุงร้อนๆใหม่ๆอย่างปลาหมึกผัดถั่วพลู (15 RM), หอยหลอดผัด (15 RM), และเมนูท้องถิ่นที่มาถึงมาเลเซียแล้วห้ามพลาดนั่นก็คือปลากระเบน (20 RM) โดยรวมวัตถุดิบสดสะอาดขนาดชิ้นใหญ่ดูดีเนื้อเยอะรสชาติเข้มข้นกลมกล่อมอร่อย แถมทั้ง 3 เมนูพึ่งจะใช้ไปเพียง 50 RM เท่านั้นเองและผู้ชนะในภารกิจนี้ก็คือคุณจิ๊บ รับรางวัลที่พักหนึ่งคืนที่ Sunway Hotel Georgetown

ได้เวลากลับไปพักผ่อนแต่เส้นทางเข้าโรงแรมค่อนข้างท้าทายมากเพราะคือถนน Lorong Baru เป็นถนนสายอาหารคนเยอะคึกคักน่าสนใจมากๆทีเดียว

ที่พักในคืนนี้ของเราคือก็ที่ Sunway Hotel Georgetown ห้องสว่างสะอาดเรียบร้อยอุปกรณ์ครบเตียงนุ่มแอร์เย็นน้ำร้อนพักผ่อนเตรียมพร้อมสำหรับวันที่สอง

วันที่สองของการเดินทาง (11/11/15) เติมพลังกับบุฟเฟ่ต์อาหารเช้าของ Sunway Hotel Georgetown กันก่อนอาหารจะมีทั้งแบบตะวันตกสลัดผักไข่ดาวไส้กรอกขนมปังหรือจะอาหาร มาเลเซียพวกแกงต่างๆคู่กับข้าวสวยรวมถึงข้าวต้มก๋วยเตี๋ยวแต่ทั้งหมดจะไม่มี เมนูที่ใช้เนื้อหมูเลย

ลาเกาะปีนังขึ้นสะพานข้ามทะเลโดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้นก็จะมาถึงที่ Parit Buntar ซึ่งเป็นสถานีรถไฟที่เราจะใช้ไปเมือง Ipoh ด้วยรถไฟขบวนใหม่ล่าสุดของ Keretapi Tanah Melayu (KTM) คือขบวน Electric Train Service (ETS) ภายในสว่างสะอาดเรียบร้อยนิ่มเงียบแอร์เย็นกระจกกว้างมองวิ่งได้ชัดเจนพร้อม ม่านปิดมีห้องน้ำกว้างขวางมีตู้เสบียงที่เรียกว่า cafe มีโทรทัศน์ให้ชมแบบเป็นซับพร้อมแสดงข้อมูลการเดินทางต่างๆด้วยความเร็วถึง 142 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำให้เราถึงเมืองอีโปฮ์ในเวลาไม่ถึงชั่วโมง

สถานีรถไฟของเมืองอีโปฮ์ออกแบบได้สวยงามโดยเฉพาะด้านหน้ามีโอกาสอย่าลืมเก็บรูปเป็นที่ระลึก สำหรับ อีโปห์ (Ipoh) เป็นเมืองหลวงของรัฐเปรัคถือเป็นเมืองร่ำรวยเมืองหนึ่งมีรายได้มาจากการทำเหมืองแร่ในอดีต

ออกเดินทางโดยรถบัสต่อไม่ถึง 40 นาทีก็มาถึงสถานที่สำหรับภารกิจต่อไปนั้นก็คือที่ Kellie’s Castle สำหรับปราสาทเคลลีสร้างขึ้นเพื่อเป็นบ้านพักในต่างแดนของวิลเลียม เคลลี สมิธ (William Kellie Smith) เจ้าของไร่ชาวสก็อตในคริสต์ศตวรรษที่ 20 การออกแบบมีกลิ่นอายของสก็อตแลนด์แต่การก่อสร้างปราสาทแห่งนี้หยุดชะงักลง เมื่อเคลลีเสียชีวิตลงอย่างกะทันหันในปีค.ศ. 1926 จึงกลายเป็นปราสาทที่ตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยวเหมือนอยู่ในความฝันท่ามกลางพืช พันธุ์ไม้ป่าของรัฐเประให้ความรู้สึกถึงความลึกลับและเอกลักษณ์ที่โดดเด่น แถมเชื่อกันด้วยว่ายังมีห้องลับและอุโมงค์ใต้ดินซ่อนอยู่ในปราสาทรวมถึงความ เชื่อเรื่องภูติผีสิ่งเล้นลับเป็นผู้เฝ้าพิทักษ์วนเวียนไม่ไปไหนที่ยังคง เป็นที่กล่าวขานและพบเห็นจนมีบริการให้ท้าพิสูจน์ในช่วงกลางดืกซึ่งสามารถ แจ้งความประสงค์กับเจ้าหน้าที่ได้

ยังไม่ลืมกับภารกิจพิชิตมาเลเซีย ” Challenge 4 : OMG, Kellie Castle” แยกย้ายกันตามหาสลักลึกลับทั่วปราสาทที่จะไขเรื่องราวของผู้พิทักษ์ปราสาท Kellie ใครใจกล้าท้าสัมผัสเจอสลักลึกลับนี้ก่อน 2 ท่านแรกคือผู้พิชิตภารกิจหลอนอันนี้ ผู้ที่พิชิตภารกิจนี้ได้คือคุณดาวและโด้ สำหรับปราสาทเคลลี เปิด 09:00-18:00 ค่าเข้าชมคนต่างชาติ 10 RM

แวะเก็บภาพประทับใจกับ TT5 Tin Dredge ยักษ์ใหญ่ตัวสุดท้ายของโลกด้วยขนาดกว้างยาว 75×35 ม. ผลิตจากประเทศอังกฤษในปี 1938 ใช้งานจนกระทั่งปี 1982 และสำหรับ 9 บล็อกเกอร์ไทยกลุ่มนี้ถือเป็นกลุ่มสุดท้ายก่อนที่ตรงนี้จะถูกปิดตัวลงและ ห้ามเข้าจนกว่าจะปรับปรุงบูรณะเสร็จคาดว่าไม่ต่ำกว่า 2 ปีกันเลยทีเดียว

มาทานมื้อกลางวันกันใน Lost World of Tambun ที่ Kepura cave ห้องอาหารแบบเปิดภายใต้บรรยากาศของถ้ำและวิวภูเขาสีเขียวของต้นไม้ร่มรื่น เป็นธรรมชาติสวยงามมาก สำหรับอาหารที่จัดเป็นแบบบุฟเฟ่ต์อาหารมาเลเซียซึ่งทำได้อร่อยถูกปากมากๆไม่ ว่าจะเป็นแกงปลาชิ้นหนาปรุงรสเข้มข้นกลมกล่อม, แกงเนื้อชิ้นหนาแต่ไม่เหนียวเลยปรุงรสหอมเครื่องเข้าเนื้อไร้ที่ติ, กุ้งตัวใหญ่เนื้อหวานหน้าตาคล้ายอบเกลือแต่รสชาติไม่ใช่ทานง่ายอร่อยอีกเช่น กัน, แกงไก่ที่หอมเข้มข้นไม่จัดมากเสริมรสเข้ากันสุดๆด้วยขนมปังปิ้งและอีกมากมาย ปิดมื้อด้วย Kopi กาแฟร้อนๆหอมๆรสเข้มข้นสุดๆ

ภารกิจที่ 5 มาต่อเลย ” Challenge 5 : Lost My world in Tambun” กับภารกิจตามหาสัญลักษณ์ภายใน Lost World of Tambun ที่มีทั้งสวนน้ำสวนสนุกและสวนสัตว์ท่ามกลางหุบเขาถือเป็นตัวท็อปแห่งเดียวใน มาเลเซียที่ผสานความสนุกท่ามกลางขุนเขาแห่งธรรมชาติได้อย่างลงตัว และคุณต้นคือผู้ที่ทำภารกิจได้สำเร็จเป็นคนแรก

แม้เราจะอยู่กลางหุบเขาแต่มื้อค่ำของ 9 บล็อกเกอร์ไทยพิชิตมาเลเซียจะต้องไม่ธรรมดาเพราะทาง Lost World of Tambun ได้จัดมื้อค่ำให้บนชายหาดแถมชมทะเลเทียมใกล้ๆเป็นบุฟเฟ่ต์บาร์บีคิวกับหลาก หลายวัตถุดิบและที่โดดเด่นสุดๆก็จะเป็นเนื้อแกะที่นุ่มหอมมีรสมีชาติเรียก ว่าไม่ต้องจิ้มน้ำจิ้มกันเลย ไส้กรอกอร่อย กุ้งเนื้อแน่นหวาน มันหวานมาก และอีกหลากหลายเมนู โดยรวมอร่อยทานง่ายถูกปากมากๆอีกหนึ่งมื้อ

ออกมาเดินที่ไนท์มาร์เก็ตในเมืองอีโปฮ์ร้านหลากหลายคนเยอะคึกคักแถมยังได้ชิมข้าวมันไก่ของอีโปฮ์อร่อยมากๆใครมาอีโปฮ์แนะนำให้ลองกัน

คืนนี้พักกันที่ Lost World Hotel โรงแรมขนาด 3 ชั้นแต่อาคารยาวมากๆกับห้องสว่างสะอาดมาตรฐานดูดีอุปกรณ์ครบหลับสบายแบบ Lost World กันเลย

สำหรับมื้อเช้าของวันที่สามของการเดินทาง (12/11/15) ที่ Lost World Hotel นั้นจะจัดอยู่ที่ด้านหน้าทางเข้าของ Lost World of Tambun มีบริเวณกว้างขวางอยู่ อาหารเป็นแบบบุฟเฟ่ต์มีทั้งอาหารมาเลเซ๊ยและอาหารตะวันตก เลือกทานกันสบายๆท่ามกลางขุนเขาพร้อมหมอกโดยรอบสวยมาก

ออกเดินทางต่อจากสถานีรถไฟของเมืองอีโปฮ์ขึ้นขบวน ETS เช่นเดิมโดยใช้เวลาประมาณชั่วโมงกว่ามุ่งสู่ กัวลาลัมเปอร์ (Kuala Lumpur) เมืองหลวงของประเทศมาเลเซีย สถานีรถไฟในกัวลาลัมเปอร์แห่งนี้กว้างใหญ่มากๆเชื่อมต่อหลากหลายที่แต่ไม่ต้องห่วงเพราะมีให้ป้ายชัดเจน

มาที่จุดนัดพบกับ 9 บล็อกเกอร์ชาวมาเลเซียเพื่อทำภารกิจร่วมกันที่ร้าน EINSTEIN ร้านคาเฟ่เก๋ๆขนาดเล็กอยู่บนชั้นสองบนถนน Jalan Sultan ในย่านไชน่าทาวน์ซึ่งทางบล็อกเกอร์จากมาเลเซียมารอเรียบร้อยบรรยากาศคึกคัก สนุกสนานเป็นกันเองเหมือนรู้จักกันมานานแล้ว

อย่ารอช้าเริ่มเลย ” Challenge 6 & 7 : Budget Travel Race” เป็นการจับคู่บล็อกเกอร์ไทยและมาเลเซียเพื่อตามหาของอร่อยทั่วไชน่าทาวน์ผ่าน Seeties และซื้อของฝากให้ได้มากที่สุดในจำนวนเงินที่จำกัด

และทีมที่ทำเวลาได้เร็วที่สุดคือทีมของคุณเอ็ดดี้และโด้นั่นเอง

ทุกคนย้ายมาทำภารกิจที่ 8 กันต่อที่ Grand Millennium Kuala Lumpur Hotel กับภารกิจ “Challenge 8 : My KL is hi-so and slow life!” ยังคงจับคู่กับคู่เดิมเพื่อแข่งชาชักและชงม็อกเทลกรรมการตัดสินคือ เชฟและบาร์เทนเดอร์ของโรงแรมแกรนด์มิลเลนเนียม กัวลาลัมเปอร์ และผู้ชนะคือทีมของคุณจิ๊บ

ช่วงเย็นกับงานแถลงข่าว “9 Bloggers 9 Missions in wonderful Malaysia” ให้กับสื่อมวลชนของมาเลเซียพร้อมขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนและมอบรางวัลให้กับ ผู้พิชิตในแต่ล่ะภารกิจที่ผ่านมา

ต่อด้วยมื้อค่ำที่ร้าน Serai ร้านตั้งอยู่ชั้น 7 ของศูนย์การค้ายักษ์ใหญ่ใจกลางเมือง Pavilion Kuala Lumpur เต็มอิ่มไปกับชุดอาหารมาเลเซียไม่ว่าจะเป็นสะเต๊ะเนื้อนุ่มหอมฉ่ำด้วย เครื่อง, ข้าวยำหอมรสกลมกล่อมจัดจ้านด้วยซอสพริก, ไก่ย่างคลุกซอสเข้มข้น, แกงเนื้อหอมนุ่มอร่อยๆ และขนมหวาน

บรรยากาศสนุกสนานมากยิ่งขึ้นหลังจากการพิชิตภารกิจร่วมกันของบล็อกเกอร์ชาวไทยและมาเลเซีย

และงานนี้โด้โชคดีได้รับผลิตภัณฑ์พิเศษที่ผลิตจากดีบุกคุณภาพโดย Royal Selangor มอบให้เป็นที่ระลึก ได้ชม star wars collection คอลเลคชั่นล่าสุดที่ผลิดเพียง 5,000 ชุดเท่านั้นสวยมากๆ

กิจกรรมในวันนี้สิ้นสุดแต่สีสันของกัวลาลัมเปอร์นั้น ไม่มีสิ้นสุดมีให้โด้ทั้งช้อปปิ้งทั้งกินทั้งดื่มทั้งเต้นกับ night life กันอย่างเต็มที่มันส์มาก

ในค่ำคืนสุดท้ายนี้ที่กัวลาลัมเปอร์ทั้งบล็อกเกอร์ชาวไทยและมาเลเซียพักกันที่ โรงแรมแกรนด์มิลเลนเนียม กัวลาลัมเปอร์ ห้องพักใหญ่กว้างขวางสวยงามดูดีมีระดับอุปกรณ์ต่างๆครบและเติมเต็มสุดๆด้วยทำเลที่อยู่ใจกลางเมืองย่านท่องเที่ยวถูกใจทุกคนแน่นอน

เข้าสู่เช้าวันสุดท้ายวันที่สี่ของการเดินทาง (13/11/15) ต้อนรับด้วยบุฟเฟ่ต์มื้อเช้าของ โรงแรมแกรนด์มิลเลนเนียม กัวลาลัมเปอร์ เช่นเดียวกับหลายๆที่คือจะไม่มีเมนูหมูดังนั้นเมนูเบคอนของที่นี่จะเป็น beef bacon ซึ่งเป็นครั้งแรกของโด้ที่ได้ชิมทานแล้วหอมอร่อยมีรสชาติอร่อยมากๆไส้กรอก เนื้อลูกวัวก็อร่อยเรียกว่าสองอย่างนี้ต้องซ้ำ แต่สำหรับท่านที่ไม่ทานเนื้อก็ยังมีเมนูต่างๆให้ได้เลือกตามมาตรฐานโรงแรม 5 ดาว

มาถึงภารกิจสุดท้ายที่สวนสนุกขนาดยักษ์ Sunway Lagoon ที่มีทั้งสวนน้ำสนุกที่พักพร้อมสรรพ

ภารกิจสุดท้ายแล้ว ” Challenge 9 : Sunway Lagoon I am ready!” จัดเป็นทีม 3 คนค้นหาสถานที่ที่กำหนดและทำกิจกรรมเพื่อให้ผ่านด่านมีทั้งหมด 5 จุดที่กระจายอยู่ทั่ว ซึ่งความยากสมกับเป็นภารกิจพิชิตมาเลเซียสุดท้ายจริงๆเพราะต้องมีทั้งตะลุย บ้านผี, วิ่งรอบสระน้ำ, และอีกมากมายแต่ที่เรียกว่าที่สุดแล้วของโด้ก็คือการที่โด้ต้องอุ้มงูซึ่ง เป็นสัตว์ที่โด้ไม่อยากแม้แต่จะมอง! ด้วยความยากทำให้ทีมที่พิชิตภารกิจสุดท้ายคือทีมคุณดาว, คุณบอย, และคุณอ้น ส่วนทีมโด้ได้ที่สองเพราะไปเสียเวลากรี๊ดร้องกับการอุ้มงู (ฮ่าๆ)

มื้อกลางวันกันที่ Lighthouse เป็นแบบบุฟเฟ่ต์ชอบข้าวผัดกับปลากรอบหอมอร่อยดีและไก่ทอดชิ้นใหญ่สะใจแต่หมักเข้าเนื้อทานเพลิน

กล่าวปิดภารกิจโดย Mr. Davie Lim, CEO Seeties ที่จัดทีมงานดูแลใกล้ชิดตลอดภารกิจสุดยอดมากๆ

และก็ได้เวลามาที่ Kuala Lumpur Airport เพื่อเตรียมตัวขึ้นเครื่องกลับประเทศไทยและแน่นอนผู้สนับสนุนการเดินทางทั้งไปและกลับก็คือ Malaysia Airlines

ทาง Malaysia Airlines ใจดีมอบตุ๊กตากัปตันมาเลเซียและ Flash Drive 16GB แถมยังไม่ให้กลับง่ายๆพามาใช้บริการที่ Golden Lounge Satellite Business ที่ให้บริการเฉพาะบัตรโดยสารชั้นธุรกิจภายในกว้างขวางสุดๆเงียบสงบมีมุมให้ นั่งมากมายรวมถึงอาหารและเครื่องดื่มก็เช่นกันเรียกกว่าให้อิ่มอร่อยเต็มที่ ก่อนขึ้นเครื่องกันเลย

และแล้วก็ถึงเวลาขึ้นเครื่องอำลาประเทศเพื่อนบ้านของเรามาเลเซีย

เก็บทุกความรู้สึกประทับใจไว้ในความทรงจำตลอดไป

ทั้งหมดนี่คือบรรยากาศกับทริป ” 9 บล็อกเกอร์ 9 ภารกิจพิชิตมาเลเซีย” ตลอด 4 วันทั้ง 3 เมืองในประเทศมาเลเซียที่มีทุกความรู้สึกทั้งโหดทั้งมันส์ทั้งฮาในทุกภารกิจ ผ่านสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามและมีชื่อเสียงระดับโลกรวมถึงการร่วมมือกัน ของบล็อกเกอร์ไทยและมาเลเซียที่ไม่มีอะไรมาขวางกั้นความสัมพันธ์อันดีของสอง ประเทศ นอกเหนือจากภารกิจพิชิตมาเลเซียยังเติมเต็มด้วยความสวยงามอิ่มอร่อยการจับ จ่ายใช้สอยและอีกมากมายที่ทำให้การเดินทางในครั้งนี้เป็นมากกว่า “ภารกิจพิชิตมาเลเซีย” ครับ.

ขอบคุณมากครับ
โด้

ขอขอบคุณ
– การท่องเที่ยวมาเลเซีย (Tourism Malaysia)
– การท่องเที่ยวมาเลเซียประจำประเทศไทย
– Seeties
– สายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ (Malaysia Airlines)
– Penang Global Tourism (PGT)
– Keretapi Tanah Melayu (KTM)
– Grand Millennium Kuala Lumpur Hotel
– Sunway Hotel Georgetown
– Lost World Hotel
– Kellie’s Castle
– Lost World of Tambun
– Sunway Lagoon
– China House
– EINSTEIN
– Serai
– Royal Selangor
– Pavilion Kuala Lumpur
– ทีมงานและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกๆท่านทั้งไทยและมาเลเซีย
– 9 บล็อกเกอร์มาเลเซีย
และสุดท้าย 9 บล็อกเกอร์ชาวไทย

รายละเอียดงาน
9 Bloggers 9 Missions in wonderful Malaysia / 9 บล็อกเกอร์ 9 ภารกิจพิชิตมาเลเซีย
ท่องเที่ยวผ่านกิจกรรมที่เมือง ปีนัง, อีโปฮ์, และ กัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย
วันที่ 10-13 พ.ย. 58


กลับสู่ด้านบน

Facebook Twitter Google+ LinkedIn Pinterest
Next article ล่าสุดกับร้านสวยเก๋ริมแม่น้ำเจ้าพระยาพร้อมอาหารสูตรกว่า 60 ปีโดยวิเศษไก่ย่างที่ Time & Tales

Related Posts

ฉลองเทศกาลแห่งความสุขคริสต์มาสและส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ปีนี้ที่ Grand Hyatt Erawan Bangkok Hotel กิจกรรม
ธันวาคม 10th, 2019

ฉลองเทศกาลแห่งความสุขคริสต์มาสและส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ปีนี้ที่ Grand Hyatt Erawan Bangkok Hotel

ร้านสวยริมแม่น้ำปิงเจ้าของ Michelin Guide Chiang Mai 2020 ที่ Oxygen Dining Room เชียงใหม่ ข่าวอาหาร
ธันวาคม 9th, 2019

ร้านสวยริมแม่น้ำปิงเจ้าของ Michelin Guide Chiang Mai 2020 ที่ Oxygen Dining Room เชียงใหม่

40 ปีกับโจ๊กคุณภาพจากฮ่องกงสู่สิงคโปร์ที่ Mui Kee Congee @ Orchard, Singapore Singapore
ธันวาคม 6th, 2019

40 ปีกับโจ๊กคุณภาพจากฮ่องกงสู่สิงคโปร์ที่ Mui Kee Congee @ Orchard, Singapore

Search : ค้นหา
Facebook

Reviewnowz

ล่าสุด! รายชื่อร้านมิชลินปี 2020 พร้อมรายละเอียด
The Michelin Guide Thailand 2020
แอพลิเคชั่นใหม่ล่าสุด ‘availabel’ ต่อยอดความอร่อยจาก Made by Todd
https://youtu.be/n215Ra_O9Bw
Ken DO The Journey
https://youtu.be/wuGAExX51wI
5 Days Singapore Trip in 4 Minutes
https://youtu.be/2G-w0v6Kf9U
Street Food in Macau
https://youtu.be/XpEGv7mYIPo
Recent Posts
  • อร่อยถึงตีสี่กับร้านอาหารจีนโต้รุ่งเปิดมา 27 ปีที่ Fong Wah Teochew Porridge @ Kuala Lumpur, Malaysia
  • ชิมร้านอาหารญี่ปุ่นที่เปิดมาถึง 36 ปีกับร้าน Ramen Tei สาขาสุขุมวิท 33/1
  • อาหารตามสั่งสไตล์ไทยๆที่ทานแล้วถูกใจอร่อยใช่เลยที่ร้าน ครัวลฎาภา ลาดพร้าววังหิน 89
  • ฉลองเทศกาลแห่งความสุขคริสต์มาสและส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ปีนี้ที่ Grand Hyatt Erawan Bangkok Hotel
  • ร้านสวยริมแม่น้ำปิงเจ้าของ Michelin Guide Chiang Mai 2020 ที่ Oxygen Dining Room เชียงใหม่
  • 40 ปีกับโจ๊กคุณภาพจากฮ่องกงสู่สิงคโปร์ที่ Mui Kee Congee @ Orchard, Singapore
  • ชั่วโมงนี้แรงที่สุด! กับโรงแรมใหม่ล่าสุดของย่านสุขุมวิทที่ Mercure Ibis Bangkok Sukhumvit 24
Social
  • Click here - to select or create a menu
© reviewnowz.com 2019. All rights reserved.
Produced by siamwebthai