Bull & Bear
3 Course Lunch Promotion
สวัสดีครับ
ห้องอาหาร บูล แอนด์ แบร์ ตั้งอยู่บนชั้นที่ 55 ของ โรงแรม วอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพ บนถนนราชดำริ และทุกวันธรรมดา (จันทร์-ศุกร์) ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ ทางห้องอาหารได้จัดอาหารชุด 3-course menu มื้อกลางวันไม่รวมเครื่องดื่มในราคาพิเศษที่เรียกได้ว่าถูกกว่ามื้อค่ำหลายเท่าตัวกันเลยทีเดียว ภายในห้องอาหารโดดเด่นด้วยการออกแบบงานไม้และหนังในสไตล์ตะวันตกที่มอบความสวยงามที่เรียบหรูดูสุขุม และแม้จะมีพื้นที่จำกัดแต่ก็ยังสามารถออกแบบให้มีที่นั่งหลากหลายมุมไม่ว่าจะเป็นโซฟาตัวยาวกลางห้อง โซฟาเข้ามุมส่วนตัว ชุดโต๊ะนั่งแบบมาตรฐาน และเคาน์เตอร์บาร์ที่ใกล้ชิดติดกับครัวแบบเปิด สวยงามด้วยวิวกรุงเทพมุมสูงสะใจแบบสุดสายตาไม่มีอะไรมาขวางกั้นครับ

รายการอาหารชุดพิเศษมื้อกลางวันซึ่งจะมีการปรับเปลี่ยนเมนูเป็นระยะๆ
รายการอาหารตามสั่งปรกติ
ฟรีขนมปังและเนยสูตรเฉพาะของทางร้านที่หอมมันอร่อยมากๆ สามารถขอเพิ่มได้
‘Beef Tenderloin Carpaccio’
เนื้อคาร์ปาชิโอใช้ส่วนของเนื้อสันใน ทานแล้วเนื้อบางนุ่มนวลไม่มีกลิ่นหรือเหนียว เสริมรสความมันมีบอดี้ด้วยซอสครีมฮอร์สราดีส มายองเนส (Horseradish mayo) ทานคู่กับสลัดผักร็อกเก็ต (Rocket Salad) ที่หอมสดกรอบราดด้วยน้ำสลัดเห็ดทรัฟเฟิลหอมเด่นและความหนึบหนับเบาๆจากชีส ทานทุกอย่างในคำเดียวจะออกนุ่มหอมมันนัว อร่อย แนะนำ

‘Fresh Tomato and Burrata’
บูราต้าชีสสดให้ทั้งลูกขนาดมาตรฐาน ผิวดีเนื้อในออกแน่นหน่อยไม่เหลวมาก ทานคู่กับมะเขือเทศสดที่ให้ความเปรี๊ยวหวาน ผักร็อกเก็ตหอมสดกรอบ ถั่วไพน์นัท (Pine Nuts) หรือถั่วเม็ดสนเนื้อกรุบๆหอมมัน และขนมปังกรอบ ถ้าชอบปรุงรสอ่อนๆเน้นตัวชีสแนะนำ

‘King Salmon Tartare’
ใช้เป็นเนื้อปลาคิงแซลมอนหั่นชิ้นเล็กสดเนื้อดีหวานมัน คลุกเคล้ากับน้ำสลัดยูสุยุ (yuzu dressing) ที่ออกเปรี๊ยวหอมมันจนฉ่ำ วางท็อปด้วยไข่ปลาเฮอร์ริ่ง (Avruga Caviar) อร่อยหวานมันหอมสดชื่น แนะนำ

‘Grilled Halibut Steak’
เนื้อปลาแฮลิบัต (Halibut) ชิ้นใหญ่หนาดูดีนำไปย่างจนผิวตึงได้ที่เนื้อในส่วนตัวว่าสุกเกินไปนิดหน่อย ทานแล้วหวานมันหนึบหนับดี เสริมรสด้วยซอสเนยมะนาว (lemon butter sauce) ซอสเนื้อข้นที่ให้ความมันและเปรี๊ยวเบาๆช่วยตัดกลิ่นปลาและเสริมรสได้อย่างนุ่มนวล โรยด้วยกะหล่ำดอกย่างที่ช่วยสร้างเนื้อสัมผัสกรุบๆ ทานคู่กับผักโขมเนื้อนุ่มปรุงรสออกเค็มเบาๆ โดยรวมให้อารมณ์คลาสสิคของเมนูปลา มาตรฐานที่ดี

‘Slow Roasted Benja Chicken’
ไก่เบญจาใช้ส่วนเนื้อล้วนชิ้นใหญ่หนาดูดีปรุงสุกเต็มที่เนื้อแน่น รสชาติหลักๆจะอยู่ที่ซอสไวน์แดง (red wine sauce) ที่หอมเด่นปรุงรสเข้มข้นจัดจ้านและกลมกล่อมลงตัว แกล้มด้วยหน่อไม้ฝรั่งย่างชิ้นใหญ่ที่หอมหวานโดดเด่น และมันบดเนื้อเนียนนุ่มหอมชัดเช่นเดียวกับการปรุงรสชาติที่ถึงเครื่องโดดเด่นเช่นกัน แนะนำ

‘Western Australian Lamb Rack’
ซี่โครงแกะออสเตรเลียสองชิ้นที่ตัดแต่งเรียบร้อยสวยงามดูดี
แกะเนื้อหวานนุ่มชุ่มฉ่ำกลิ่นเฉพาะแทบไม่เหลือ เสริมรสด้วยซอส lamb jus หอมรสเข้มข้นกำลังดีไม่กลบเนื้อแกะ ทานคู่กับอาร์ติโชค (globe artichokes) ชิ้นใหญ่เนื้อหนา พริกย่างหอมนุ่ม และผักร็อกเก็ต ถ้าชอบแกะแนะนำ

‘Wagyu Short Rib Burger’
เบอร์เกอร์เนื้อชิ้นใหญ่หนาสะใจ วางให้เห็นถึงเครื่องเคราต่างๆที่ถูกชีสกรุยแยร์ (Gruyere Cheese) ปกคลุมจนทั่ว วางท็อปด้วยไข่นกกระทา สวยงามดูดี

ทานแล้วโดดเด่นในทุกส่วนไม่ว่าจะเป็นตัวขนมปังที่มีผิวกรอบเนื้อในฟูเหนียวนุ่มมีรสชาติในตัวเองอร่อยมาก ส่วนเนื้อหอมเด่นมากๆมี หัวหอมคาราเมลไลซ์ (Caramelized) ได้ฉ่ำและรสชาติเข้มข้นถึงใจ คลุกเคล้ากับซอสบาร์บีคิวจนหอมฉ่ำและชอบที่รสชาติจัดจ้านแต่ไม่โดด หอมมันหนึบหนับกับเบคอนรมควัน ชีสกรุยแยร์สร้างหอมมันที่เป็นเอกลักษณ์ รองด้วยผักสด ทานทุกอย่างในคำเดียวคือความหอมหวานมันเค็มครีมนัวหนึบหนับ อร่อยมากๆ ส่วนตัวอยากให้ปริมาณเนื้อมากกว่านี้อีกจะได้สมดุลย์กับตัวขนมปัง แต่ยอมรับเลยว่าปรุงรสต่างๆได้ลงตัว เยี่ยมมาก แนะนำ

‘Wagyu Beef Tenderloin 200 Day Grain Fed’
เนื้อสันในวากิว ขนาดคลาสสิคมาตรฐาน มาพร้อมกับบร็อคโคลีย่างหอมๆสุกเนื้อนุ่มดีทั่วทั้งชิ้น รองด้วยมันฝรั่งเนื้อเนียน

สเต็กเนื้อชิ้นหนา ความสุกปานกลางได้ตามสั่ง เนื้อนุ่มดีทั่วทั้งชิ้น เสริมรสด้วยซอส borscht ที่ให้ความฉ่ำและรสชาติที่กลมกล่อมยิ่งขึ้นโดยที่ยังรักษาตัวเนื้อให้ยังโดดเด่นอยู่ ทานคู่กับเครื่องเคียงต่างๆให้ความอร่อยที่คลาสสิค แนะนำ

ชุดเครื่องปรุงมีเกลือและมัสตาร์ดอย่างละ 2 ชนิด ส่วนตัวชอบมัสตาร์ดผสมไวน์ที่จะมีกลิ่นหอมและรสชาติที่เบานุ่มนวล เสริมรสแต่ไม่กวนวัตถุดิบหลักจนเกินไป

‘Burned Cheese Cake’
ชีสเค้กขนาดมาตรฐาน เนื้อมันเนียนนุ่ม ราดด้วย bourbon orange caramel รสส้มหวานกำลังดี ทานคู่กับไอศกรีมรสเบอร์เบิ้นและพีแคน (bourbon & pecan ice cream) แนะนำ

‘Exotic Dome’
พานาคอตต้ามะม่วง (mango panna cotta) เนื้อนุ่มเนียนมันหอมมะม่วงเบาๆ ทานคู่กับสับปะรดสด แต่ไม่ชอบสับปะรดแห้งที่ออกเหนียวติดฟัน

‘Crunchy Chocolate Fudge’
ช็อกโกแลตฟัดจ์หอมชัดรสชาติเข้มข้นชัดเจนไม่หวานมากเสริมรสด้วยแยมราสเบอร์รี่ (raspberry jam) และไอศกรีมวนิลา อร่อย แนะนำ

นอกจากนี้ยังสามารถสั่งเมนูปรกติเพิ่มเติมได้
‘Cheese Plate’
ปริมาณกำลังทานเล่น ชีสใช้ของมาตรฐานที่ดี มาพร้อมกับของแห้งไส้ทานคู่แกล้มไวน์
‘Cheese Cake’
เค้กเคลือบช็อกโกแลตทานคู่กับมาร์ชเมลโล่ย่าง ป็อปคอน และไอศกรีม
เนื้อสัมผัสดี เครื่องชัดเจน และชอบที่หวานกำลังดี
ฟรีช็อกโกแล็คก้อนเล็กปิดมื้อ
เครื่องดื่มเลือกเป็นไวน์แดงทั้งหมด
1. Joseph Faiveley, Bourgogne, Pinot Noir, 2017 (Burgundy, France) ราคา 2,500++ บาท
2. Celler de Capcanes, Costers del Gravet Grenache Cabernet Sauvignon, 2016 (Monsant, Spain) ราคา 2,750++ บาท
3. Fontodi, Chianti Classico DOCG, 2017 (Tuscany, Italy) ราคา 2,900++ บาท
ตัวที่สอง กลิ่นรสกลางๆ เข้ากับเมนูไก่ได้ดี
ตัวที่สาม บอดี้ชัด รสออกเปรี๊ยวชัด เสริมมิติให้กับเมนูเนื้อ
โดดเด่นในทุกมิติจริงๆสำหรับมื้อกลางวันนี้ ไม่ว่าจะเป็น บรรยากาศที่ตกแต่งได้สวยงามหรูหรา วิวกรุงเทพมหานครแบบสุดสายตา บริการวอลดอร์ฟระดับโลก อาหารในชุด 3 เมนูโดยรวมปริมาณอิ่มกำลังดีเลย วัตถุดิบคุณภาพดี รสมือโดยรวมทำได้มาตรฐานที่ดีทานได้ไม่มีสะดุด และราคาโปรโมชั่นที่ตั้งกล้าบอกได้เลยว่าแค่ขึ้นไปก็คุ้มเกินราคาแล้ว ส่วนตัวถือให้เป็นอาหารโปรโมชั่นชุดกลางวันวันธรรมดาที่ดีและคุ้มค่าที่สุดที่ห้องอาหาร บูล แอนด์ แบร์ ของ โรงแรม วอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพ ครับ.
ขอบคุณมากครับ
โด้
รายละเอียดโปรโมชั่น
– 3-course menu มื้อกลางวันไม่รวมเครื่องดื่ม เฉพาะจันทร์-ศุกร์ ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ ราคาระหว่าง 1,000-1,600++ บาท
รายละเอียดห้องอาหาร
ห้องอาหาร บูล แอนด์ แบร์ / Bull & Bear
ชั้น 55 / 55th Floor
11:30-14:30 / 17:30-22:00
โทร. 0-2846-8850
รายละเอียดโรงแรม
โรงแรม วอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพ / Waldorf Astoria Bangkok
151 ถนนราชดำริ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพ 10330 [เขตปทุมวัน]
151 Ratchadamri Rd., Lumphini, Pathum Wan, Bangkok 10330 Thailand
โทร. 0-2846-8888
website : www.hilton.com