รู้ไว้สบายใจกับข้อมูลการเดินทางในฮ่องกง

หลังจากที่ได้ทำการจองตั๋วเครื่องบินไปฮ่องกงผ่านผู้ให้บริการอย่าง TRAVELOKA เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อเราได้เดินทางมาถึงสนามบินนานาชาติฮ่องกง (Chek lap Kok International Airport) และเพื่อเข้าสู่เมืองตามจุดหมายที่พักต่างๆที่เราได้จองไว้ตั้งแต่เมืองไทยผ่าน TRAVELOKA ไม่ว่าที่พักนั้นจะตั้งอยู่ในส่วนของเกาลูน (Kowloon) หรือเกาะฮ่องกง (Hong Kong Island) จากสนามบินนั้นเราสามารถเลือกเดินทางด้วยบริการหลากหลายไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้า MTR (Mass Transit Railway), รถไฟสายด่วน (Airport Express : AE), รถแท็กซี่, หรือรถประจำทาง นอกจากนี้ก็ยังมีอีกหนึ่งบริการที่โด้ว่าเป็นอีกทางเลือกที่ดีเลยทีเดียวนั่นก็คือ Airport Shuttle Services ซึ่งในรีวิวนี้จะนำเสนอข้อมูลต่างๆอย่างละเอียดเพื่อที่จะได้เป็นอีกหนึ่งข้อมูลในการช่วยการตัดสินใจในการเดินสู่ฮ่องกงได้อย่างสบายใจ รวมถึงข้อมูลการเดินทางต่างๆภายในฮ่องกงด้วย งั้นเราก็มาเริ่มกันเลย

สำหรับบริการรถโค๊ชนี้จะให้บริการรับ-ส่งจากสนามบินสู่โรงแรมที่พักระหว่างเวลา 07:00-23:00 สามารถตรวจสอบรายชื่อโรงแรมที่ให้บริการและช่วงเวลาที่ให้บริการโดยจะมีรถมาทุกๆ 30 นาที [ตรวจสอบรายชื่อโรงแรมและตารางเวลา CLICK!] สำหรับจุดรับ-ส่งอาจจะไม่ได้จอดหน้าโรงแรมที่เราพักตรงๆแต่จะไม่ไกลกันเพียงข้ามถนนเท่านั้น ดังนั้นแม้จะไม่มีรายชื่อโรงแรมที่เราพักแต่ถ้าใกล้กับโรงแรมที่มีรายชื่อก็สามารถใช้บริการได้เลย

บัตรที่นั่งสามารถซื้อผ่านออนไลน์ได้เลยว่าจะเลือกทั้งไป-กลับหรือจะเลือกเที่ยวเดียวก็ได้ [สั่งซื้อบัตรที่นั่ง CLICK!] โดยในส่วนราคาค่าบริการนั้นจะอยู่ที่

สนามบิน รับ-ส่ง โรงแรมในเกาลูน ราคา HK$130 ต่อเที่ยว
สนามบิน รับ-ส่ง โรงแรมในเกาะฮ่องกง ราคา HK$140 ต่อเที่ยว

หมายเหตุ :
– ฟรีสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี
– จำกัดกระเป๋าเดินทางขนาดไม่เกิน 158 ซม. 2 ชิ้น
– น้ำหนักไม่กิน 20 กิโลกรัม (44 lbs.) ต่อชิ้น
– ถ้าเกินอาจต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม

เมื่อชำระแล้วจะได้อีเมล์เป็น Transport Voucher พร้อมรายละเอียดต่างๆตรวจสอบให้เรียบร้อยว่าถูกต้องหรือไม่ โดยจุดหลักๆที่ควรดูเป็นอย่างแรกๆเลยก็คือ จากที่ไหนไปไหน และวันที่ใช้บริการ ไม่จำเป็นต้องพิมพ์อีเมล์แค่เซฟอีเมล์หรือแคปหน้าจอก็เพียงพอแล้วเพราะเจ้าหน้าที่ต้องการเพียงแค่ Voucher No. เท่านั้น และถ้าซื้อเดินทางแบบไป-กลับจะได้อีเมล์ 2 ฉบับเพราะจะใช้แยกกัน

เมื่อเราได้เดินทางมาถึงฮ่องกงและรับกระเป๋าเรียบร้อยให้เดินออกมาจากทางประตู B ซึ่งจะใกล้กับเคาน์เตอร์เซอร์วิสและโอกาสหลงทางจะน้อยกว่าประตู A จากประตู B เดินตรงมาก็เจอเคาน์เตอร์เซอร์วิสแล้ว

สำหรับในทริปของโด้ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงในการเดินทางจากสนามบินมาถึงจุดหมายใจกลางของ Tsim Sha Tsui และเพียงข้ามถนนก็ถึงโรงแรมเลยใกล้มากๆ และนี่คือรายละเอียดในส่วนของการเดินทางจากสนามบินถึงที่พัก

ต่อจากนี้ก็จะเป็นข้อมูลในการเดินทางในแบบต่างๆภายในฮ่องกงและเกาลูน ระหว่างการท่องเที่ยวในฮ่องกงนั้นการเดินทางด้วย รถไฟฟ้า MTR ถือเป็นช่องทางการเดินทางที่ง่ายและสะดวกสบายที่สุดด้วยระยะทางรวมกว่า 187 กิโลเมตรผ่าน 93 สถานี นอกจากจะซื้อตั๋วแบบปรกติแล้วยังมีบัตรในแบบต่างๆให้เลือกเพื่อให้เหมาะสมกับการเดินทางในแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบัตร Adult Tourist Day Pass ที่สามารถใช้บริการของ MTR และ Light Rail แบบไม่จำกัดได้ 1 วัน (ไม่รวม Airport Express, MTR Bus, East Rail Line First Class, และสถานี Lo Wu หรือ Lok Ma Chau) ราคา HK$65 บัตรนี้จะไม่มีค่ามัดจำและไม่ต้องคืนบัตร และบัตรที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คงจะไม่พ้นบัตร Octopus เป็นบัตรเติมเงินที่ใช้แทนเงินสดได้เลยโดยที่เราไม่ต้องมาค่อยดูว่าต้องซื้อบัตรเท่าไหร่รวมถึงการหยิบเงินนับเหรียญที่วุ่นวาย โดยเติมครั้งล่ะ HK$50 หรือ HK$100 แต่ยอดรวมในตัวบัตรจะต้องไม่เกิน HK$1,000 และการเติมแต่ละครั้งสามารถเก็บไว้ได้ถึง 1,000 วันและสามารถใช้เงินในบัตรได้จนถึง -HK$35 เวลาคืนบัตรนี้จะได้ค่ามัดจำบัตรคืนแต่จะต้องเสียธรรมเนียม HK$10 ถือว่าแลกกับความสะดวกสบายในการเดินทาง

บัตรนี้ยังสามารถใช้ขึ้นรถราง, รถบัส (MTR Bus)

รวมถึงเรือเฟอร์รี่และซื้อของต่างๆในเซเว่นได้อีกด้วยเรียกว่าใบเดียวครบเครื่องเรื่องเดินทางเลย

แต่ในบางครั้งจุดหมายก็อาจจะอยู่นอกเส้นทางการเดินทางการใช้บริการ Taxi ยังคงเป็นทางเลือกที่สะดวกและใกล้จุดหมายมากที่สุด สำหรับ Taxi ในฮ่องกงมีให้บริการถึง 18,163 คัน โดยจะแยกเป็น 3 ส่วนตามพื้นที่ให้บริการคือ Urban taxis แท็กซี่สีแดง, New Territories taxis แท็กซี่สีเขียว, และ Lantau taxis แท็กซี่สีน้ำเงิน แต่แท็กซี่สีแดงจะเป็นแท็กซี่หลักๆที่เราจะมีโอกาสใช้บริการมากที่สุดจะคิดค่าบริการเริ่มต้นรวม 2 กิโลเมตรแรกอยู่ที่ HK$24 และทุกๆ 200 เมตรหรือ 1 นาทีจะคิด HK$1.70 จนถึงยอดรวมที่ HK$83.5 จะปรับลดมาเป็น HK$1.20 ส่วนแท็กซี่อีกสองสีก็จะมีอัตราค่าบริการที่แตกต่างกันไป

ส่วนอันนี้แถมสำหรับผู้ที่จะไปพระใหญ่นองปิง (The Big Buddha Statue)โดยตั้งใจจะขึ้นกระเช้าลอยฟ้าแน่นอนแล้ว โด้ขอแนะนำให้ซื้อตั๋วจากเมืองไทยไปเลย เพราะทริปที่ผ่านมาคิวซื้อตั๋วยาวมากๆน่าจะใช้เวลาเป็นชั่วโมงๆแน่นอน

ถ้าซื้อตั๋วจากเมืองไทยเรียบร้อยแล้วก็ให้เข้าช่อง Agent Ticket Voucher ตามภาพได้เลยซึ่งแทบจะไม่มีคิวสะดวกสบายสุดๆ

ต้องย้ำว่าถ้าตั้งใจขึ้นแน่นอนแล้วให้ซื้อก่อนบินเลย เอาเวลาชั่วโมงกว่าๆไปเดินเล่นบนเขาไหว้พระดีกว่า

และมาถึงในวันกลับเข้าสนามบินก็เพียงแค่รอรถมารับที่จุดแล้วยื่นตั๋วเป็นอันเสร็จเรียบร้อย

ขากลับใช้เวลาเพียง 40-50 นาทีก็มาถึงสนามบินแล้ว

การเดินทางภายในฮ่องกงนั้นมีให้เลือกหลากหลายแบบและแต่ละแบบก็มีรายละเอียดปลีกย่อยออกไปทั้งนี้ก็เพื่อให้เหมาะสมกับการเดินทางของแต่ละคน อย่างในรีวิวนี้การใช้บริการ Airport Shuttle Services จะเห็นได้ว่าสะดวกสบายมากๆโดยเฉพาะผู้ที่เดินทางกับผู้สูงอายุ (แต่ต้องสามารถก้าวขึ้นรถโค๊ชได้) ผู้ที่ยังไม่คุ้นกับการท่องเที่ยวในฮ่องกง และโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีกระเป๋าเดินทาง เที่ยวเข้าเมืองเดินมาขึ้นท่ารถไม่ไกลมีเจ้าหน้าที่นำทางตลอดไม่ต้องกลัวหลงกระเป๋าก็ไม่ต้องถือไม่ต้องห่วง ไม่ต้องเปลี่ยนรถให้สลับสน ไม่ต้องลากและต้องคอยเฝ้าระวังกระเป๋า จุดจอดรถใกล้โรงแรม และขากลับเข้าสนามบินนั้นจะยิ่งรู้สึกถึงความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นเพราะกระเป๋าที่ช็อปกันมาเต็มที่นั้นไม่ต้องถือหรือลากไปมาซักพักก็ถึงเทอร์มินอลหน้าประตูสนามบินแบบนั่งสบายๆ ส่วนการเดินทางระหว่างทริปบัตร Octopus ก็สะดวกสบายสุดเพราะไม่มีเงื่อนไขมากมายแถมยังใช้ได้หลากหลาย และบางครั้งจะต้องขึ้นแท็กซี่ก็ต้องขึ้นเพียงเท่านี้การเดินทางของเราก็สะดวกสบายขึ้นอีกเยอะเลยครับ.

ขอบคุณมากครับ
โด้

รายละเอียด
Vigor Airport Shuttle Services Limited
Tel: (852) 2739 3828
website : www.vigorholding.com